ขนมโตเกียว ไม่มีขายในโตเกียวแล้วขนมโตเกียวมาจากไหนกันล่ะ
ขนมโตเกียว ไม่มีขายในโตเกียวแล้วขนมโตเกียวมาจากไหนกันล่ะ
ไปญี่ปุ่นรอบหน้าว่าจะไปหาขนมโตเกียวกินซะหน่อย งานนี้คงต้องผิดหวังไปตามๆกัน ขนมโตเกียว ขนมแป้งกรอบๆ ม้วนๆ ที่มาพร้อมกับไส้แสนอร่อย ขนมชื่อญี่ปุ่นที่แฝงด้วยปริศนา เพราะเชื่อมั๊ยว่าคนญี่ปุ่นไม่รู้จักค่ะคุณ อ้าวว แล้วขนมโตเกียวนี่มันมาจากไหนกันแน่นะ ไปหาคำตอบกันเลย
ขนมโตเกียวเนี่ย นอกจากจะหากินที่โตเกียวไม่ได้แล้ว ที่มาก็ยังเถียงกันไม่จบ บ้างก็ว่าดัดแปลงมาจากขนม “โดรายากิ” แต่ก็มีอีกเสียงที่เชื่อว่ามาจากขนม “ยะสึฮาชิ” ซึ่งเจ้าขนมทั้งสองอย่างที่กล่าวมาก็มีหน้าตาดังภาพด้านบนนั่นเอง
อีกข้อสันนิษฐาน คือ ขนมโตเกียว เพี้ยนมาจากคำว่า ขนมโรเนียว เพราะว่าตอนทำ คนขายจะต้องวนแป้งเป็นแผ่นกลมบนกระทะเหมือนการโรเนียว นานวันเข้าคนก็เรียกเพี้ยนจาก โรเนียว เป็น โรเกลียว จนกลายเป็น โตเกียว ในที่สุด
แต่จากข้อมูลในนิตยสาร HEALTH & CUISINE ปีที่ 16 Vol. 188 ระบุว่า เจ้าขนมโตเกียวเนี่ยเริ่มเห็นในไทยช่วงประมาณปี พ.ศ.2510 ที่ห้าง ไดมารุ ว่ากันว่าว่าจุดกำเนิดของขนมโตเกียวมาจาก ร้านแห่งหนึ่งในห้างแห่งนี้ ทำขนมที่ดัดแปลงมาจากขนมโดรายากิของญี่ปุ่น แล้วตั้งชื่อขนมของตนเองที่ทำขึ้นใหม่นี้ว่า ขนมโตเกียว เพื่อให้เข้าธีมกับห้าง เพราะว่าห้างนี้เป็นห้างที่นำเข้าสินค้าและอาหารจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ถึงขนมโตเกียว จะไม่เกี่ยวอะไรกับกรุงโตเกียวเลย แต่ขนมชนิดนี้ก็ครองใจใครหลายๆคนไปแล้ว ทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน แถมนับวันจะยิ่งมีหลากรสให้เลือกกินไม่เบื่ออีก ไม่ว่าจะไส้ไส้กรอก ไส้ไข่ ไส้หวาน ไส้ปูอัด ฝอยทอง ฯลฯ แล้วแต่ความครีเอทของคนขาย พูดแล้วก็เริ่มหิวไปหาโตเกียวกินสักชิ้นสองชิ้นดีกว่า
อยากกินโตเกียวอร่อยต้องรถเข็น แต่ถ้าอยากเที่ยวโตเกียวแบบคุณภาพเน้นๆ ต้องเที่ยวกับเรานะ ขายของเลยละกัน..
แพ็คเกจเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง https://l.his-bkk.com/2TZpwrj
ไม่ชอบแพลนเองต้องไปแบบกรุ๊ปทัวร์ https://l.his-bkk.com/2IHi8M3
ชมพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ายามเช้า ณ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม แวะชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติรังสรรค์ อาทิ สามพันโบก หาดหงส์ แก่งตะนะ แวะสักการะพระพุทธรูปคู่บ้านเมืองวัดทุ่งศรีเมือง ชุ่มฉ่ำกับน้ำตกกลางวัด ณ วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย ชมต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องอวตาร ณ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ให้ท่านพักโรงแรมบรรยากาศโรแมนติคริมโขงในคืนแรก และนอนเต็นท์กระโจมชิลๆ ริมเขื่อนในคืนที่สอง
สัมผัสดินแดนอีสานแบบใกล้ชิด นอนเต็นท์ติดริมโขง ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น แลวิวประเทศเพื่อนบ้านผ่านสายหมอก สักการะพระพุทธรูปคู่บ้านเมืองอุดร เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัด ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกคู่กับอาคารทรงโคโลเนียลสีเหลือง ชมความงามตระการตาของพระวิหารวัดป่าภูก้อน ใกล้ชิดกับทะเลหมอกยิ่งขึ้นกับทางเดินสกายวอล์ค ณ วัดผาตากเสื้อ พลาดไม่ได้กับหินสามวาฬ และปิดท้ายทริปด้วยการไต่สะพานไม้รอบหินผาเจ็ดชั้นขึ้นไปยังยอดภูทอก