คุณสมบัติของรู้รับเงินเยียวยาข้อนี้จะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ จาก COVID-19 เนื่องจากการปิดพื้นที่เสี่ยง COVID-19 ชั่วคราวและการหยุดกิจการของธุรกิจที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส เช่น สนามมวย สนามกีฬา สถานบันเทิง สปา ฟิตเนส เป็นต้น รวมถึงผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งเงินยังไม่ครบ 6 เดือน ซึ่งยังไม่มาสิทธิ์รับเงินกรณีว่างงาน ก็มีสิทธิ์ได้รับเงินเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน จากกระทรวงการคลัง ภายใต้หลักเกณฑ์และการกำหนด จากการเปิดลงทะเบียน ที่กระทรวงการคลังกำหนด
1.สนับสนุนเงินคนละ 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน
ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 ผ่านทาง www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยตรงหรืออีกตัวเลือกผ่านธนาคารของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งก็คือธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก่อนลงทะเบียนอย่าลืมเตรียมหลักฐานให้พร้อมด้วยล่ะ นั่นคือ บัตรประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลนายจ้างเป็นหลักฐานการรับเงิน
2.ให้สินเชื่อฉุกเฉิน 10,000 บาทต่อราย วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0.1% และไม่ต้องมีหลักประกัน
3. สินเชื่อพิเศษ 50,000 บาทต่อราย วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน (ต้องมีหลักประกัน)
4. สำนักงานธนานุเคราะห์รับจำนำดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกิน 0.125% ต่อเดือน
5. ยืดการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเลื่อนกำหนดเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปเป็นสิงหาคม 2563
6. หักลดหย่อยเบี้ยประกันสุขภาพ เพิ่มจาก 15,000 บาท เป็น 25,000 บาท
7. ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับค่าเสี่ยงภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ (รวมถึงเจ้าหน้าที่รังสีวิทยา, เจ้าหน้าที่ขับรถของโรงพยาบาล ฯลฯ)
8. จัดฝึกอบรมเพิ่มทักษะทางอาชีพ หรือจัดกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงนักศึกษาที่ยังหางานไม่ได้ และขยายการฝึกอบรมผ่านภาคีเครือข่าย เช่น มูลนิธิโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง กระทรวง อว. เป็นต้น