06.30-07.30 น. อิสระตอนเช้า ณ ที่พัก หรือ เลือกทำกิจกรรมยามเช้า… ** เดินเท้าจากที่พัก / ไม่ใช้รถตู้ **
① ใส่ชุดมอญและตักบาตร ณ สะพานมอญ => ห้ามพลาด!! “พิธีตักบาตรมอญ” เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านในอำเภอสังขละบุรี ตอนเช้าตรู่ เวลาประมาณ 06.30 น. ให้ท่านใส่ชุดมอญ ต่อแถวยาวร่วมกับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อรอใส่บาตรพระสงฆ์ ให้ท่านสัมผัสบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์ของการตักบาตรมอญ และความยิ้มแย้มเป็นกันเองของผู้คน
(ไม่รวม ค่าชุดตักบาตรและชุดมอญ ประมาณ 99 บาทต่อท่าน)
② ชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ สะพานมอญ => เป็นการสัมผัสบรรยากาศสวยๆอีกแบบบนสะพานมอญ และสามารถถ่ายรูปวิถีชีวิตของชาวมอญที่หาดูยากในปัจจุบัน
……….. น. รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พัก และออกเดินทางสู่ => วัดวังก์วิเวการาม
เช้า ③ วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) => หรือเรียกอีกชื่อว่า “วัดหลวงพ่ออุตตมะ” เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทย ชาวกระเหรี่ยง โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายมอญ โดยที่เปรียบเทียบ หลวงพ่ออุตตมะ เป็น “เทพเจ้าแห่งชาวมอญ” ซึ่งวัดวังก์วิเวการามเคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงพ่อฯ ในปัจจุบัน วัดนี้จึงเสมือน ตัวแทนของหลวงพ่อ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆตามประเพณีของมอญ และจัดงานอื่นๆ เช่น งานคล้ายวัดเกิดของหลวงพ่อ อุตตมะ (ค่าเข้าชม: ฟรี ???)
④ เจดีย์พุทธคยา => ปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็น เจดีย์องค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งน้ำสามารถมองเห็นได้แต่ไกล เพราะขนาดที่สูงใหญ่ และมีสีทองเหลืองอร่าม ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่พุทธศาสนิกชนมาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต (ค่าเข้าชม: ฟรี ???)
กลางวัน อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านมอญ **สามารถเดินหาร้านอาหารที่ชอบแถวๆนั้นได้ **
บ่าย ออกเดินทางสู่ => อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
⑤ ** ถ้ามีเวลา ** ซู่ซ่าจุใจ กับ.. “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น” => เป็นน้ำตกกลางหุบเขา ที่เดินเข้าจากที่จอดรถเพียงประมาณ 300 เมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียว สูงประมาณ 34 เมตรที่มีความสวยงามมากและมีน้ำตลอดทั้งปี คำว่า “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น” เป็นภาษาพม่า เพี๊ยนมาจากคำว่า “ก๊อกกระด่าน” ซึ่ง จ๊อก (หรือ ก๊อก) หมายถึง หิน และ กระดิ่น (หรือ กระด่าน) หมายถึง น้ำตก รวมกัน แปลว่า น้ำตกที่ไหลผ่านจากซอกหินผาน้ำที่ได้จากน้ำตกแห่งนี้จะมีแร่ธาตุอยู่มาก ทำให้คนที่ได้เล่นน้ำตกแห่งนี้ก็เหมือนกับได้อาบน้ำแร่ไปในตัวนั่นเอง (ไม่รวม ค่าเข้าอุทยานฯ คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาทต่อท่าน / เด็ก 20 บาทต่อท่าน)
จากนั้น ออกเดินทางสู่ที่พักในหมู่บ้านอีต่อง
⑥ หมู่บ้านอีต่อง (ปิล๊อก) => หรือ บ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กที่อยู่ติดกับชายแดนไทยพม่า เดิมเคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล๊อก ซึ่งเป็นเหมืองแร่ดีบุกที่เคยรุ่งเรืองในอดีต มีคนงานร่วม 600 คน จนราคาแร่โลกตกต่ำเนื่องจากถูกตัดราคาจากจีน ทำให้เหมืองแร่ปิล๊อกปิดตัวลงไป ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีบรรยากาศดีมาก ปกคลุมด้วยไอ้หมอก และมีกิมมิจน่ารักๆในทุกส่วนของ หมู่บ้าน (ไม่รวม ค่าเข้าชม ค่ากิจกรรม ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม..ถ้ามี) ** หมายเหตุ : ภายในหมู่บ้านเป็นการเดินเท้าเที่ยว ไม่ใช้รถตู้ **
⑦ ชมพระอาทิตย์ตก ณ เนินช้างศึก => เนินช้างศึก หรือ ฐานช้างศึก อดีตเป็น ฐานตชด. บริเวณจุดชมวิวเขาสูง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า เป็นฐานที่มั่นของตำรวจตระเวณชายแดนที่ 135 ซึ่งปัจจุบันเป็น จุดชมวิวที่เป็นนิยมในการชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านอีต่อง และเห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าเหนือทะเลอันดามัน
** สามารถเดินเท้าขึ้นลงได้ ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตรจากตัวหมู่บ้าน ควรพกไฟฉายติดตัวไปด้วย **
(ค่าเข้าชม : ฟรี แต่ไม่รวม ค่ารถขึ้นลงเนิน ราคาประมาณ 50-60 บาทต่อท่าน)
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็น ณ ตลาดอีต่อง ** สามารถเดินหาร้านอาหารที่ชอบแถวๆนั้นได้ **